เมนูนำทาง
สมบัติ บุญงามอนงค์ งานด้านการเมืองสมบัติ เป็นแกนนำกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ ต่อต้านรัฐประหารและรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ คมช. โดยก่อนหน้านั้นเป็นหนึ่งในแกนนำเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร และต่อมาได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่ โดยมีชื่อกลุ่มที่ตั้งใหม่ว่า แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ซึ่งต่อต้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) โดยสมบัติเป็นแกนนำ นปก.รุ่น 2 ภายหลังแกนนำ นปก.รุ่นแรก ถูกคุมขัง อีกทั้งยังเป็นผู้เสนอการรณรงค์ "แดงไม่รับ" เป็นสีตรงข้ามกับสีเขียวรับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ทำให้ผู้ที่ต่อต้านรัฐประหาร โดยเฉพาะคณะรัฐประหารของพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน นิยมใส่เสื้อสีแดงมาร่วมชุมนุมหรือกิจกรรมการเมืองจนถึงปัจจุบัน
หลังจากการเลือกตั้งและ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับเมืองไทย และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาประท้วง ในช่วงเวลานั้น สมบัติร่วมจัดตั้ง ศูนย์เฝ้าระวังการรัฐประหารแห่งชาติ เพื่อต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ สมบัติยังเป็นผู้จัดทำสติกเกอร์ข้อความ "เบื่อม๊อบ พันธมิตร"
สมบัติ เคยถูกจับที่สถานีขนส่งเชียงราย ขณะที่เขารณรงค์ปราศรัยไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ คมช. ก่อนที่จะมีการลงประชามติ เนื่องจากจังหวัดเชียงรายมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก เขาและเพื่อนอีก 1 คนถูกควบคุมตัวในค่ายทหารบกเชียงรายเป็นเวลา 1 วันก่อนถูกปล่อยตัวออกมาเนื่องจากมีแรงกดดันจากสาธารณะและมวลชน นปก ที่หน้ากองทัพภาคที่ 1
นอกจากนั้นยังเคยถูกพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร และ พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ฟ้องหมิ่นประมาทกรณีซุ้มปาเป้าที่สนามหลวง เขาเข้ามอบตัวและไม่ขอประกันตัวในช่วงแรก ๆ และอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 11 วัน ก่อนขอประกันตัวต่อศาลโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์
ภายหลังเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553 และ 19 พฤษภาคม 2553 เขาได้เดินทางไปผูกผ้าสีแดงบริเวณป้ายแยกราชประสงค์ โดยเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์กระชับพื้นที่ ที่นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทำให้เขาถูกคุมตัวตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยถูกคุมตัวที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี เมื่อสถานการณ์เริ่มกลับสู่ปกติแล้วศาลจึงอนุญาตปล่อยตัว ขณะที่ถูกควบคุมตัวอยู่นั้นเขาได้กล่าววาทกรรมหนึ่ง ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหน้าปกมติชนรายสัปดาห์ในสัปดาห์นั้นว่า
ห้ามฉันพูด ฉันก็จะพิมพ์ ห้ามฉันพิมพ์ ฉันก็จะเขียน ห้ามฉันเขียน ฉันก็จะคิด ห้ามฉันคิด ก็ต้องห้ามลมหายใจฉัน[4]— สมบัติ บุญงามอนงค์
ภายหลังได้รับการปล่อยตัวสมบัติได้เดินทางมาที่แยกราชประสงค์ และได้นำผ้าสีแดงไปผูกที่ป้ายแยกราชประสงค์อีกครั้ง นอกจากนี้ได้ทำกิจกรรม “ที่นี่มีคนตาย” แสดงการเสียชีวิตของประชาชน ที่ราชประสงค์ประกอบด้วย โดยนายสมบัติระบุว่าจะทำกิจกรรมทำนองนี้ทุกวันอาทิตย์แต่จะเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ[5]
ต่อมาเป็นพิธีกรรายการ ประชาชน 3.0 ออกอากาศทางช่องโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชียอัปเดต ต่อมาย้ายการออกอากาศไปยังสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี (ยูดีดีทีวี) โดยออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเย็น (ปัจจุบันหลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ยูดีดีทีวีเปลี่ยนขื่อเป็นพีซทีวี รายการได้ลดวันและเปลี่ยนเวลาออกอากาศเป็นทุกวันอาทิตย์ เวลา 13:00 น.) ต่อมาในปลายปี พ.ศ. 2558 สมบัติร่วมกับ อุสมาน ลูกหยี ดำเนินรายการ มีคำถาม ออกอากาศทางช่องเดียวกัน ออกอากาศในช่วงดึกวันจันทร์-อังคาร (ต่อมาย้ายการออกอากาศไปไว้ช่วงบ่ายและช่วงเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ตามลำดับ)
มีข้อสงสัยว่าบทความนี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ระบุไม่ได้ชัดเจนเพราะขาดแหล่งที่มา หรืออ้างถึงสิ่งพิมพ์ที่ยังตรวจสอบไม่ได้ หากแสดงได้ว่าบทความนี้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แทนป้ายนี้ด้วย {{ละเมิดลิขสิทธิ์}} หากคุณมั่นใจว่าบทความนี้ไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ ให้แสดงหลักฐานในหน้าอภิปราย โปรดอย่านำป้ายนี้ออกก่อนมีข้อสรุป |
21 พ.ค.2557 หลังจากเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ประกาศใช้กฏอัยการศึกทั่วประเทศ พร้อมนำกองกำลังทหารและอาวุธเข้าควบคุมในจุดสำคัญทั่วกรุงเทพและสถานีโทรทัศน์ พร้อมปิดสถานีโทรทัศน์หลายช่อง ในช่วงเย็นวันเดียวกันที่บริเวณหน้าหอศิลป์กรุงเทพ ได้มีกลุ่มประชาชนซึ่งส่วนมากแต่งชุดดำรวมตัวถือป้าย จุดเทียน ประท้วงและเรียกร้องให้เร่งยกเลิกการประกาศใช้กฏอัยการศึก โดยระบุว่านอกจากไม่ช่วยแก้ปัญหา ยังเป็นการซ้ำเติมปัญหาความขัดแย้ง ละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน[6]
22 พ.ค.2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เข้าควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 นาฬิกา เป็นต้นไป
23 พ.ค.2557 เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ออกคำสั่ง คสช.ที่ 3/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มอีก 114 คน ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 23 พ.ค.57 เวลา 10.00 น. โดยบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ที่เคยร่วมรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งแกนนำการชุมนุมทั้งฝ่าย นปช. และ กปปส.ซึ่งรวมไปถึง บก.ลายจุดอีกด้วย[7]
"รายงานตัว ?"
หลังจากแถลงการณ์ของคณะรัฐประหารได้ประกาศรายชื่อบุคคลให้ไปรายงานตัว และได้ปรากฎชื่อผมด้วยนั้น ผมขอแจ้งให้ทราบว่า ชีวิตเคยไปรายงานตัวตอนสอบเข้าเรียนเท่านั้น นอกจากนั้นไม่เคยไปรายงานตัวเลย อีกอย่างผมไม่ยอมรับอำนาจคณะรัฐประหาร การออกประกาศเหล่านี้จึงไม่สามารถบังคับจิตใจผมได้
และที่เมื่อเช้าไปตามหาผมทีคอนโด แล้วไปทำลูกบิดบ้านผมพัง อันนี้ผมเคือง
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการกวนตีนของผมจะไม่มีทางหยุดยั้ง จนกว่าคุณจะจับตัวผมได้
ลองดูมั๊ย ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ ?[8]— สมบัติ บุญงามอนงค์
23 พ.ค.2557 ประมาณ 17.00 น.ที่บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน ประชาชนหลายร้อยคนเดินทางมาชุมนุมคัดค้านการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในระหว่างนั้น เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเมื่อมีรถบรรทุกทหารเดินทางเข้ามาเพื่อพยายามควบคุมพื้นที่หอศิลป์กรุงเทพ แต่ถูกประชาชนขับไล่จนต้องต้องถอยร่นไปบริเวณสะพานหัวช้าง มีรายงานจากผู้สื่อข่าวว่า ประมาณ 19.30 น.มีประชาชนที่มาร่วมการประท้วงถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับกุมตัวไปอย่างน้อย 5 คน ทราบชื่อ 3 คนประกอบด้วย อภิชาติ พงษ์สวัสดิ์, ธนาพล อิ๋วสกุล บก.บห.นิตยสารฟ้าเดียวกัน, บุณยรักษ์ วัฒนะรัตน์ อายุ 20 ปี ส่วนอีก 2 คนไม่ทราบชื่อ ถูกคุมตัวขึ้นรถทหารไป[9]
ไฟล์:นินจาลายจุด.jpgผู้ชุมนุมสวมหน้ากากนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ "บก.ลายจุด" ระหว่างการประท้วงรัฐประหารเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 255724 พ.ค.2557 เวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประชาชนประมาณ 1,000 คน รวมตัวประท้วงการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์โดยรอบ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ประท้วง 2 ราย ทราบชื่อคือนายนพพร นามเชียงใต้ หรือ เต้ มดแดง ซึ่งถูกควบคุมตัว ก่อนผู้ชุมนุมเข้าแย่งตัวกลับ ขณะที่อีกรายคือนายทนงศักดิ์ พัฒนพงษ์ไพบูลย์ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารรวบตัว หลังชูป้ายกระดาษ A4 ข้อความว่า “ประชาชนอยู่ไหน” บริเวณหน้าประตูทางเข้ากองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ.) สนามเป้า ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้กดดันและเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารให้ปล่อยตัวนายทนงศักดิ์ออกมา จนกระทั่งเวลา 18.40 น. หรือ 10 นาทีหลังถูกจับทหารจึงปล่อยตัวออกมา โดยนายทนงศักดิ์ได้เขามาโพสต์แจ้งในเฟซบุ๊กแฟนเพจประชาไทด้วยว่า “ผมยืนถือป้าย ประชาชนอยู่ไหน อยู่หน้ากรมทหารสนามเป้า ผมไม่ได้ตะโกน ผมอยู่อย่างสงบ ทหารพุ่งเข้าชาร์คตัวผม ชกผม แล้วกดผมลงให้หน้าแนบพื้น เอามือไขว้หลัง แล้วลากผมเข้าในบวิเวณที่กั้นม่านไว้ แล้วก็รุมกระทืบผม เสร็จแล้วก็อุ้มผมคว่ำหน้าขึ้นท้ายกระบะหน้าผมแนบพื้น มีทหารนั่งอยู่ขอบกระบะบังอยู่เกือบ 10 คน”[10]
27 พ.ค.2557 หลังจ่าประสิทธิ์-สมบัติ บุญงามอนงค์ ไม่เข้ารายงานตัว คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงออกคำสั่ง 26/2557 ระงับทำธุรกรรม พร้อมเรียกสถาบันการเงิน-นิติบุคคลส่งข้อมูลการทำธุรกรรมของทั้งสองที่เกิดขึ้นระหว่าง 1 มี.ค. - 27 พ.ค. 57 มาให้หัวหน้า คสช. ภายใน 3 วัน ฝ่าฝืนคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่น และเวลาประมาณ 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิกลุ่มประชาชนหลานร้อยคนรวมตัวเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วและคัดค้านการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กลุ่มดังกล่าวสลายการชุมนุมไปอย่างสงบในเวลา 18.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าบริเวณอนุสาวรีย์ชัยฯ ทั้งบริเวณสกายวอล์คและด้านลางมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจควบคุมรอบพื้นที่ รวมทั้งมีผู้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบอาหาร ดอกไม้ให้กับเจ้าทหาร พร้อมสนับสนุนการทำรัฐประหารด้วย[11]
ไฟล์:สามนิ้วเสรีภาพ.jpgกิจกรรม "3นิ้ว 3เวลา" จะเป็นกิจกรรมต่อต้านแบบจรยุทธของบก.ลายจุด 2 มิ.ย.576 มิ.ย. 2557 สังคมออนไลน์เฟสบุ๊คมีการเผยแพร่ข้อความพร้อม คลิปเสียงของสมบัติ แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง ให้สานต่อภารกิจฟื้นฟูประชาธิปไตย หลังจากมีการนำเสนอข่าวว่า เมื่อเวลา 21.30 นายสมบัติ ถูกควบคุมตัวที่พานทอง จ.ชลบุรี โดยการนำทีมของ ผบก.ปอท.ร่วมกับ ร.21 และการตรวจไอพีโดย สขช. (สำนักข่าวกรองแห่งชาติ) พร้อมกับมีภาพขณะนายสมบัติ ถูกควบคุมตัวในบ้านหลังหนึ่ง พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการจับกุมนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ว่า ลำดับแรกใช้วิธีการควบคุมตัวในพื้นที่พิเศษ ไม่เกิน 7 วัน จากนั้นส่งต่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอน สำหรับการควบคุมตัวในพื้นที่พิเศษ เพื่อปรับทัศนคติ เป็นการพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม สำหรับนายสมบัตินั้น เบื้องต้นกระทำผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. ยุยง ปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบโดยเผยแพร่ข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์ [12]
9 มิ.ย. 2557 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการศึกษา ช่วยราชการกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายสมบัติ บุญงามอนงค์ (บก.ลายจุด) ที่ถูกทหารควบคุมตัว ว่า จะต้องถูกดำเนินการฐานที่ไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. และ กฎหมายอาญา มาตรา 116 ยุยงให้คนมาชุมนุม ส่วนคดีอื่นๆ ที่ทหารไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้น จะมีการตั้งทีมมาตรวจสอบคดีนี้ โดยมอบหมายให้ สถานีตำรวจนครบาลสามเสน รวบรวมคดีที่มีการแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ ซึ่งมีประมาณ 3-4 ราย โดยจะแยกกับส่วนที่มีการแจ้งความไว้ที่กองปราบปราม ทั้งนี้ จะมีการสืบสวนทุกคดีไปพร้อมกัน หากแล้วเสร็จจะขออนุมัติศาลออกหมายจับในคราวเดียวกัน สำหรับผู้ขัดคำสั่งไม่มารายงานตัวนั้น จะต้องพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นอีกครั้ง ว่าสมเหตุผลหรือไม่ ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน คสช. เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ตำรวจสามารถบันทึกภาพผู้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วต่อต้านได้ทั้งหมด 7 คน และชัดเจนพอที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับ ส่วนที่เริ่มพบการแสดงออกด้วยการนัดกินแซนวิช ประกอบการอ่านแถลงการณ์ คงต้องมีการพิจารณาอีกครั้งว่า มีเนื้อหาหรือมีลักษณะต่อต้าน คสช. เหมือนกันหรือไม่ สำหรับการโพสต์ข้อความเชิญชวนให้ต่อต้าน คสช. ถือว่ามีความผิดแน่นอน เพราะ เป็นการชวนคนให้มาชุมนุม หรือการแสดงความชื่นชอบด้วยการกดไลค์ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะเป็นการกระจายข่าวโดยคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้เขียนขึ้นเองตาม[13]
10 มิ.ย.2557 เกศสุดา บุญงามอนงค์ ภรรยาสมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ ได้ประสานงานกับคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อประสานงานกับ คสช. ขอเข้าเยี่ยม นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ถูก คสช.เรียกรายงานตัว โดยได้รับการแจ้งว่า ให้ไปที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ แต่เมื่อไปถึง กลับได้รับคำตอบว่านายสมบัติไม่เคยมาที่นี่ เกศสุดา กล่าวต่อว่า เนื่องจากเคยข่าวในสื่อต่างๆ ว่ามีการนำตัวสมบัติไปไว้ที่ ค่ายทหาร ร.21 รอ. ชลบุรี จึงเดินทางไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่ทหารที่ทำหน้าที่ดูแลคนที่รายงานตัวแจ้งว่า นายสมบัติไม่เคยอยู่ที่นี่ ทำให้วันนี้ เธอไม่ได้พบกับสามี จึงอยากเรียกร้องถึง คสช. ขอให้คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของสามี โดยควรแจ้งให้ญาติได้รู้ว่าอยู่ที่ไหนอย่างไร [14]
11 มิ.ย. 2557 ศาลทหาร อนุมัติหมายจับ นายสมบัติ แล้วใน 2 ข้อหา คือ ยุยงปลุกปั่น ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และ ความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยได้รับการประสานจากทางทหารว่า จะคุมตัวนายสมบัติให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปอท.ดำเนินคดี และแจ้งข้อกล่าวหากับนายสมบัติแล้ว กองปราบปรามจะอายัดตัว เพื่อนำไปดำเนินคดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. พร้อมกับควบคุมตัวไว้สอบสวนตามกำหนด ก่อนที่จะนำไปฝากขังที่ศาลทหารต่อไป และ เกศสุดา บุญงามอนงค์ ภรรยาของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นำจดหมายเปิดผนึกที่ลูกสาวเขียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. มามอบให้สื่อมวลชน ขณะเดินทางมารอพบและประกันตัวสามีที่ศาลทหาร[15]
30 มิถุนายน 2559 ศาลอุทธรณ์ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 25/2557 และ 29/2557 ให้จำคุก 2 เดือน ปรับ 3000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี
ในวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561 ตำรวจได้ออกหมายเรียกและแจ้งข้อกล่าวหาเขาในความผิดขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2558 และอีกหลายข้อหา เนื่องจากชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561[16]
เมนูนำทาง
สมบัติ บุญงามอนงค์ งานด้านการเมืองใกล้เคียง
สมบัติ เมทะนี สมบัติ บุญงามอนงค์ สมบัติ ยะสินธุ์ สมบัติ จันทรวงศ์ สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สมบัติ คุรุพันธ์ สมบัติการสลับที่ สมบัติ นพรัก สมบัติ อุทัยสาง สมบัติ ศรีสุรินทร์แหล่งที่มา
WikiPedia: สมบัติ บุญงามอนงค์ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/643294 http://www.bannok.com/cont/index.html http://www.facebook.com/redbuff http://superbuff.spaces.live.com/ http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53348 http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53423 http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53426 http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53456 http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53502 http://www.prachatai.com/journal/2014/05/53596